~~## ชมรมคอมพิวเตอร์ โรงเรียนเปี่ยมสุวรรณวิทยา ## ~~

ประเพณีลอยกระทง

 

  วันเพ็ญ เดื่อน 12 นํ้าในแม่นํ้าลําคลองปริ่มเต็มตลิ่ง พระจันทร์
เต็มดวงทอแสงสว่างนวลอากาศเย็นสบายในวาระอันรื่นรมย์เช่นนี้
เป็นช่วงเวลาแห่งการละเล่นรื่นเริงแต่ละภูมิภาคต่างก็มีประเพณี
ปฏิบัติตามวิถีวัฒนธรรม และความเชื่อของ ท้องถิ่นนั้น ตัวอย่าง
เช่น ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ จะมีการตามประทีป โคมไฟ 
ลอยกระทงล่องสะเปาและปล่อยโคมเพื่อบูชาพระธาตุจุฬามณีบน
สวรรค์ประเพณีลอยกระทงประทีป พันดวง จังหวัดตาก ใช้กระลา มะพร้าวมาทำกระทง แล้วจุดไฟปล่อยให้ลอยเป็นสายไปตามแม่น้ำ ปิงสองสายเป็น ประกายระยิบระยับ สวยงามการลอยกระทงนี้มีคติ หลายอย่าง ได้แก่ เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ณ ริมแม่น้ำ นัมทา
มหานที เพื่อบูชาและขอขมา พระแม่คงคา เพื่อ บูชาพระอรหันต์ อุปคุตซึ่งจำศีลอยู่ ณ สะดือทะเล ตลอด เป็นการสะเดาะเคราะห์

 

   กระทงที่นำมาลอยส่วนใหญ่มักจะประดิดประดอยเป็นรูปดอกบัวบานอย่างสวยงามด้วยวัสดุซึ่งหาได้ในท้องถิ่นเมื่อถึงเวลา พลบค่ำบรรดาผู้คนต่างนำกระทงที่เตรียมมาปักดอกไม้จุดธูปเทียนแล้วปล่อยให้ล่องลอยไปตามกระแสน้ำบางคนก็ตัดผมและ เล็บใส่ลงไปด้วยเพื่อให้เคราะห์ต่างๆลอยไปพร้อมกระทงบางคนก็ใส่เงินลงไปเพื่อเป็นการให้ทาน แต่บางคนโดยเฉพาะ หนุ่มๆสาวๆมักจะอธิษฐานขอพรให้สมหวังในความรักหลังจากลอยกระทงเสร็จแล้วก็ชักชวนกันดูการละเล่นรื่นเริงบนฝั่ง   การลอยกระทงเกิดขึ้นในประเทศเมื่อใดไม่มีใครทราบแต่บรรดาผู้รู้สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากพิธีตามประทีป หรือทีปสวารี ของอินเดีย ซึ่งทำคู่กับการลอยกระทงเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้ง3 ของศาสนา พราหมณ์ คือ พระพรหม พระอิศวร และพระนารายณ์ และประเทศไทยได้เอาคติความเชื่อนี้ เข้ากับมาปรับเข้ากับความเชื่อท้องถิ่น เกิดเป็นประเพณีการลอยกระทงเพื่อขอขมาลาโทษพระแม่คงคาขึ้นเพราะชาวไทยสมัยก่อนประกอบอาชีพเกี่ยวกับการกสิกรรม ซึ่งจะต้องอาศัยน้ำเป็นปัจจัยหลักในการเพาะปลูกต่อมาการลอยกระทงได้กลายเป็นประเพณีที่ชาวไทย ถือปฏิบัติกัน จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลกการแพร่กระจาย มณฑลกวางสีของจีน ไต้หวัน เกาะไหหลำ ลาวตอนใต้ เวียดนามด้านตะวั นออกเ ฉียงใต้ มลายูและสุมาตรา ชนิดย่อย M.O.OORTI พบในมลายูและสุมาตรา ในประเทศไทย พบครั้งแรกเมื่อวันที่ 19-20 เมษายน 2540 ในป่าดิบเขาที่ระดับความสูง1,100-1,200 เมตร แถบลุ่มแม่น้ำคลอง กะวะ อ.เบตง จ. ยะลา โดยฟิลลิป ดี.ราวด์ [ Philip D. Round ] สถานภาพ ทั่วโลก พบมาก ในประเทศไทย นกประจำถิ่นมีพบน้อยแหล่งอาศัย ป่าดิบชื้นแบบมลายู ในระดับความสูงตั้งแต่ 600 เมตร จนถึงป่าดิบเขาในระดับ ความสูง 1300 เมตร ในมลายูพบบนภูเขา

$$ ประเพณี $$

- ลอยกระทง
-
พระราชพิธีจรดพร
พระนังคัลแรกนาขวัญ
-
แข่งเรือยาว
-
ประเพณีบุญบั้งไฟ 













## HOME ##

 

 


 

 

 

>>TOP<<

พระราชพิธีจรดพรพระนังคัลแรกนาขวัญ

      เดือนหกเป็นเดือนเริ่มต้นฤดูการทำนาและเพาะปลูกของเกษตรกรทั่วประเทศในเดือนนี้มีงานประเพณีที่เกี่ยวข้อง กับเกษตรอันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทยประเพณีที่สำคัญและน่าสนใจคือพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนัง
คัลแรกนาขวัญและประเพณีบุญบั้งไฟตามฮีดเดือนหกของอีสานประเพณีชาวหลวงและประเพณีราษฎร์ทั้งสองงานนี้
ล้วนแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลิตผลการเกษตรของแผ่นดินอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
     พระราชพิธีจรดพรพระนังคัลแรกนาขวัญมีประวัติกล่าวถึงมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยหรือปรากฎแน่ชัดเป็นกฎมณเฑียร
บาลในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ให้มีพระราชพิธีนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวนามุ่งมั่นทำนาให้ได้ผลและยังสนับสนุน
ให้ผลูกข้าวในพระนครเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งปลูกไว้เพื่อบริโภคและเพื่อเป็นเสบียงในยามศึกสงคราม หรือขายเพื่อให้ส่ง ยังต่างประเทศด้วย ครั้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็มิได้ว่างเว้นต่อการพระราชพิธีแรกนาขวัญ 
     ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยังทรงให้มีพิธีขึ้น ณ ทุ่งนาหลังวัดอรุณราชวรารามต่อมาสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงย้ายมาทำที่ทุ่งส้มป่อย ตำบลพญาไท และยังโปรดให้ไปทำพิธีที่พระนคร ศรีออยุธาและ เพชรบุรีด้วย เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์และได้เสด็จพระราชดำเนิน ยังประเทศอื่น ทรงศึกษาวิธีการเกษตรกรรมของต่างประเทศกับมาพัฒนาการเกษตรกรรมในประเทศไทยโดยเฉพาะ ทุ่งส้มป่อยวังพญาไท หลังจากนั้นพระราชพิธีนี้ได้ว่างเว้นไปในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และมาผื้นผูขึ้นใหม่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชฯ ในรัชกาลปัจจุบันเมื่อปีพุทธศักราช 2503 เป็นต้นมา
       ปัจจุบันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธี 2 พิธีรวมกัน คือ พระราชพิธีพืชมงคล กับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งเป็นพิธีหลวงที่ทางราชการจัดขึ้น มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นพระยาแรกนาโดยตำแหน่ง ส่วนเทพีทั้งสี่เป็นข้าราชการหญิงโสดในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มี ตำแหน่งตั้งแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโทขึ้นไป

>>TOP<<

ประเพณีแข่งเรือยาว

 "เรือยาวประเพณี" เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ ไทยบนสายน้ำในอดีตวิธีชีวิตของคนไทยมีความผูกพันกับสายน้ำมา โดยตลอดไม่จะเป็นการสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยย่านแหล่งชุมชุนในสมัยโบราณคนมักจะเลือกตั้งทำเลใกล้แม่น้ำเป็น
บนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ก็เพื่อเหตุผลการคมนาคมขนส่งทางน้ำเป็นหลักซึ้งมีเรือเป็นพาหนะในการเดินทางตลอดจนการใช้ น้ำสำหรับการเกษตรและอุปโภค เป็นต้น ดังนั้น แม่น้ำจึงเปรียบเสมือนสายโลหิตของชีวิตคนไทยในอดีตฤดูกาล น้ำหลาก...ช่วงเดือนธันวาคม คนไทยในสมัยโบราณว่างเว้นจากการทำนาและเพาะปลูกมีจิตศรัทธาต่อพระพุทธ ศาสนาจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานบุญทอดกฐิน และได้จัดขบวน เรือกฐินไปทำบุญตามวัดต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำ เสร็จจากการทำบุญทอดกฐินเรียบร้อยแล้ว ก็จะร่วมสนุกสนานกันด้วยการเล่นต่างๆ มากมาย รวมถึง การแข่งขันเรือยาว เป็นประเพณีสืบมา ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจุบันดังทำให้การ ของชาวกรุงเก่า เกี่ยวกับพระราชพิธีสิบสองเดือนว่าได้มี พิธีแข่งเรือ หรือพระราชพิธีอาสวยุช" ขึ้นในเดือนสิบเอ็ด
 

  ปัจจุบันประเพณีการแข่งเรือยาวมักจะพบเห็นทั่วไปทุกภูมิภาคของประเทศและมีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นแตกต่าง
กันไปควรแก่การศึกษาท่องเที่ยวในเชิงวิถีชีวิตวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่งยกตัวอย่างเช่น การแข่งขันเรือยาวนานาชาติ และเรือยาวประเพณีประเทศไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การแข่งขันเรือยาวประเพณีไทย - ลาว บริเวณแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย นครพนม และมุกดาหาร การแข่งขันเรือยาวประเพณี จังหวัดพิจิตร น่าน และการแข่งขันเรือขึ้นโขน - ชิงธง อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และอีกงานหนึ่งที่น่าสนใจคือ "การแข่งเรือกอและชิงถ้วยพระราชทานหน้า พระที่นั่ง" จังหวัดนราธิวาสเรือกอและภาษาพื้นเมืองเรียก "เรือโยกอง" เป็นเรือประมงชายฝั่งทางภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะ จังหวัดนราธิวาสได้ใช้เรือนี้เป็นเรือแข่งขันมาตั้งแต่สมัยโบราณและในปี พ.ศ. 2518 ประชาชน ชาวนราธิวาส พร้อมใจกันจัดการแข่งเรือกอและหน้าพระที่นั่ง ณ บริเวณปากแม่น้ำบางนรา อำเภอเมืองนราธิวาส ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน แปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เมือเรือกอและลำใดชนะเลิศจะได้ครองถ้วย พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในแรกนั้นเรือที่ได้รับพระราชทานถ้วยรางวัล ได้แก่ เรือสิงห์ภักดี เป็นเรือของกลุ่มชาวประมงบาเละฮิเล จังหวัดนราธิวาส นับจากนั้นมางานดังกล่าวได้จัดต่อเนื่องมาเป็นประเพณีทุกปี

>>TOP<<

ประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร 

      ประเพณีบุญบั้งไฟที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานและในประเทศไทยคือที่จังหวัดยโสธรทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวมุ่งไปชม 
กัน อย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศแห่งความสนุกสนานรื่นเริงในงานนี้ เริ่มตั้งแต่การทำบั้งไฟ คุ้มวัดต่างๆจะเริ่มจัดหา อุปกรณ์การทำไว้ประมาณ๒-๓ เดือน สาวๆก็เตรียมฝึกซ้อมการเซิ้งบั้งไฟ เพื่อจะเซิ้งนำขบวนแห่เหล่าหนุ่มๆ ที่ตั้งใจจะ บวชในงานบุญนี้ก็เตรียมตัวท่องบทขานนาค ที่ไม่ได้บวชก็เตรียมปลูก " ผาม" คือกระท่อมเล็กๆไว้ที่ลานวัด เพื่อใช้เป็นที่
รับรองแขกจากต่างถิ่น เรียกว่า ครึกครื้นกันไปทั้งหมู่บ้านทีเดียวบั้งไฟนั้นมีหลายแบบ แต่ที่นิยมทำกันมากมี ๓ แบบ คือ 
บั้งไฟหาง บั้งไฟก่องข้าว และบั้งไฟตะไล การแห่บั้งไฟมีกำหนด๓วัน คือ วันสุกดิบเป็นวันชุมนุมบั้งไฟ เจ้าภาพในหมู่บ้าน จะแห่บั้งไฟไปไว้ที่วัดและเตรียมตัวรับรองแขกจากต่างบ้านเหล่าชาวบ้านจะรวมตัวกันที่ลานวัดและมีการทำบุญตามประเพณี วันที่สองเป็นวันประชุมรื่นเริง เลี้ยงรับรองแขกต่างถิ่นซึ่งแห่บั้งไฟมาร่วมงานและมีทำบุญเลี้ยงพระไปด้วย ในวันนี้จะมีการแสดง และการเล่นรื่นเริงอย่างสนุกสนานทั้งจากเจ้าภาพและแขก ในวันที่สามก็จะมีการจุดบั้งไฟ เป็นวันสำคัญที่สุดในงานบุญบั้งไฟตอนเช้ามีการทำบุญเลี้ยงพระจากนั้นจะแห่บั้งไฟรอบๆพระอุโบสถแล้วจึงจุดบั้งไฟ เสี่ยงทาย เพื่อทำนายผลผลิตทางการเกษตรว่า ดีร้ายประการใด จากนั้นจะเป็นการจุดบั้งไฟเสียงและการแข่งขันจุดบุญบั้งไฟ ระหว่างคณะต่างๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ตื่นเต้นและสนุกสนานเพราะบางครั้งแทนที่บั้งไฟจะขึ้นสู่ท้องฟ้าก็กลับเลี้ยวลงสู่พื้น ไล่คนดูให้วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง บั้งไฟคณะไหนแพ้ก็จะมีการจับโยนลงโคลน ให้ได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

>>TOP<<